วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไปรับไซริวการ์ด

ตอนที่ไปยื่นต่ออายุไซริวการ์ด เจ้าหน้าที่ก็แนบใบให้ไปรับติดที่พาสปอร์ต สามารถรับได้ตั้งแต่วันที่ 17-25 พย.
ก่อนที่จะไปรับก็ไปซื้ออากรแสตมป์ 4000 เยนที่ไปรษณีย์
พอไปถึงก็ไปต่อแถว พอถึงคิวเราก็ยื่นพาสปอร์ต + ไซริวการ์ดให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ให้ Certificate for Payment of Fee (手数料納付書)มา ให้ติดอากรแสตมป์ แล้วก็วงกลมที่ต่ออายุไซริวการ์ด แล้วก็เซ็นชื่อ จากนั้นก็รอคิวรับบัตรไซริวการ์ด
ครั้งนี้ได้ 3 ปี (ต่อขอขอไป 5 ปี) แล้วเจ้าหน้าที่ก็คืนบัตรเก่ามาให้ด้วย เราก็งง เพราะเหมือนครั้งที่แล้วไม่ได้คืนบัตรเก่ามาให้น้า เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า เขาเจาะรูที่บัตรเก่าแล้ว  ก็ดีเหมือนกันจะได้เก็บบัตรเก่าไว้เป็นที่ระลึก


และสงสัยคงจะจริง เพราะเคยอ่านเจอที่คนไทยเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะได้ 1ปี 1ปี 3ปี 5ปี ตามลำดับ
เพราะของเราก่อนมาญี่ปุ่นได้ 1 ปี พอต่อก็ได้ 1 ปี ครั้งนี้ได้ 3 ปี ครั้งต่อไปอาจจะลองยื่นถาวรกับ 5 ปี ดู

หน้าตาอากรจะเป็นแบบนี้


วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไข้ขึ้น แต่ยังให้นมลูกอยู่

เมื่อวานไข้ขึ้น วันนี้ก็เลยไปหาหมอ + กับให้คุณหมอดูอาการท้องเสียของเจ้าหนูที่ยังไม่ดีขึ้นด้วย
ของเราคุณหมอก็ถามอาการ ก็จะมีปวดหัว ปวดตา มีเสมหะเล็กน้อย วันนี้วัดไข้ดู 36.5 ลดลงจากเมื่อวาน คุณหมอก็เลยจัดยา 2 ตัวนี้มาให้ น่าจะไม่มีปัญหากับเรื่องการให้นมอ่ะเนอะ คุณหมอบอกว่าถึงจะดีขึ้นก็ต้องทานให้หมด




ตรวจของเราเสร็จก็พาเจ้าหนูตรวจ วัดไข้เจ้าหนูดู 37.3 คุณหมอบอกไม่เป็นไร แล้วเราก็เอารูปอึเมื่อเช้าให้คุณหมอดู แล้วคุณหมอก็จัดยาแบบเดิมมาให้สำหรับ 1 อาทิตย์ ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้มาอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ไม่มีผงน้ำเกลือ

ค่าตรวจของเราครั้งนี้ 1,280 เยน
ส่วนของเจ้าหนูไม่มีค่าใช้จ่าย



วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เปลี่ยนโอะฟุโระใหม่

โอะฟุโระเก่าแตก ก็เลยต้องเปลี่ยนใหม่ เจ้าของห้องก็เลยเสนอให้เป็นแบบไฟฟ้า (แบบเดิมใช้ก๊าซ) ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่รู้ยังไง ต้องรอใบแจ้งหนี้มา

แบบเดิมจะหน้าตาอย่างนี้






แบบใหม่ สะดวกดีไม่ต้องมาปั่นก๊าซทำน้ำร้อนเหมือนแบบเดิม ^^





รวมกลุ่มลูกที่รุ่นเดียวกันครั้งที่ 4

วันนี้นัดกับเพื่อนคนกัมพูชาไปที่ Hoken Center ด้วยกัน วันนี้เจ้าหน้าที่ให้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แล้วให้แต่ละคนพูดเกี่ยวกับพัฒนาการของลูก ลูกเป็นยังไงแล้ว มีปัญหาเรื่องไหน ประมาณว่าเล่าสู่กันฟัง พอเราฟังของแต่ละคนก็รู้สึกค่อยยังชั่วหน่อยว่าลูกคนอื่นก็เป็นเหมือนกัน อย่างตอนนี้เจ้าหนูยังไม่คว่ำ หงายเองเลย (บางคนทำได้ตั้งแต่ 3 เดือนกว่า ๆ)
แต่วันนี้เจ้าหนูงอแงมาก ๆ อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ให้นมก็แล้ว คงจะง่วงนอนมาก ๆ ก็เลยขอตัวกลับก่อน เพื่อนคนกัมพูชาก็กลับด้วย ประมาณว่ามาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน ดีจริงๆ เลย ^^

แต่หลังจากที่กลับมาแล้ว วันนี้มีนัดช่างมาเปลี่ยนโอะฟุโระ ถึงบ้านก็ยังเข้าบ้านไม่ได้ เพราะของที่ช่างเอามาเต็มไปหมด ต้องรอตอนเที่ยงเพราะช่างไปทานข้าว เราก็เลยต้องพาเจ้าหนูวนอยู่แถว ๆ นั้น เดินมากไปมั้ง แดดก็แรง กลับมาเราไข้ขึ้น จริง ๆ ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว รู้สึกปวดกระดูก มาเจอแดดอีก ไข้เลยขึ้นเลย วัดดู 37.0 เลยต้องแปะแผ่นลดไข้เลย แปะที่หน้าผากด้วย ที่รักแร้ด้วย 555

ส่วนเจ้าหนูรู้สึกว่าตัวอุ่น ๆ เหมือนกัน ตอนกลางคืนเลยแปะลดไข้กันไว้ก่อนเลย สำหรับทารกก็จะมีขายหน้าตาแบบนี้






วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตัวทำทิชชูเปียกเช็ดก้นให้อุ่นขึ้น (クイックウォーマー)

พอเข้าฤดูใบไม้ร่วง อากาศก็เริ่มเย็นจนถึงหนาวเลยหล่ะ เจ้าหนูก็เอาละ ตอนเช้าเช็ดตัว (หน้าร้อนจะอาบน้ำ 2 ครั้งเช้าเย็น หน้าหนาวเหลืออาบน้ำตอนเย็นครั้งเดียว ตอนเช้าเช็ดตัวเอา) ต้องถอดเปลี่ยนเสื้อผ้า ร้องไห้เลย ขนาดที่ห้องเปิดฮีตเตอร์ก็แล้ว คงจะหนาวมาก
พอตอนจะเช็ดก้น ขนก็ลุกเลย รู้สึกสงสารลูกอ่ะ เราเป็นผู้ใหญ่เวลาเข้าห้องน้ำที่รองนั่งชักโครกไม่อุ่น ยังรู้สึกเย็น ๆ ก้นเลย แล้วกับทารกน่าจะรู้สึกมากกว่า ก็เลยไปซื้อที่ทำให้ทิชชูเปียกเช็ดก้นอุ่นขึ้น
ราคาที่ซื้อ 3,065 เยน หลังจากใช้ก็รู้สึกว่าเจ้าหนูดีขึ้นยอมให้เช็ดแต่โดยดี 555 แต่ก็ยังขนลุกอยู่อ่ะนะ ^^



ซื้อน้ำยาสำหรับซักผ้าเจ้าหนูเพิ่มเติม สำหรับปัญหาเศษดำ ๆ หลังซัก

ตั้งแต่ซักผ้าของเจ้าหนู ที่เครื่องซักผ้าก็มักจะมีแผ่นเศษดำ ๆ ติดมาด้วย ทำความสะอาดถังโดยใช้ที่เขาโฆษณาก็ยังไม่หาย จนมาวันนี้คุณซูก็เพิ่งมาสังเกตเห็นที่ขวดของน้ำยาซักผ้าเจ้าหนู เขาเขียนว่าน้ำยานี้เป็นแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นจะมีแผ่นเศษดำ ๆ เกิดขึ้น ให้ใช้ร่วมกับตัวอื่นด้วย ก็เลยต้องซื้อน้ำยาสำหรับซักผ้าเจ้าหนูเพิ่มอีก 1 ตัว

ตอนแรกใช้แค่ตัวนี้





และตัวที่ซื้อเพิ่มเติมใช้คู่กัน

ผลที่ได้คือรู้สึกว่าดีขึ้น แผ่นดำ ๆ ไม่ค่อยมีแล้ว


วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตั้งแต่ปีหน้า ค่าโทรศัพท์ ไฟฯ จะมีค่าธรรมเนียมจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ

ก่อนหน้านี้เคยจะเขียนว่าที่ญี่ปุ่นดีเนอะ เวลาไปจ่ายค่าน้ำ ไฟฯ ที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11, Family Mart จะไม่มีค่าธรรมเนียม เพราะถ้าที่เมืองไทยจะเสียบิลละ 10 หรือ 15 บาทนี่แหล่ะ (เริ่มจำไม่ค่อยได้หล่ะ)

ยังไม่ทันจะได้เขียนเลย ก็มีจม. มาแจ้งว่าตั้งแต่ปีหน้าจะมีค่าธรรมเนียมถ้าไปจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ไม่รู้แต่ละบริษัทจะเท่ากันหรือเปล่า อย่างค่าโทรศัพท์จะบิลละ 150 เยน แต่ถ้าหักผ่านบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต จะไม่มีค่าธรรมเนียม เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม

ตอนนี้เราก็กรอกเอกสารให้หักผ่านบัญชีของค่าไฟ กับค่าก๊าซ ส่งเรียบร้อยแล้ว
แต่ว่าเอกสารที่ว่า ถ้าเป็นที่เมืองไทยก็สามารถไปขอที่ธนาคารได้เลย แต่ที่นี่น่าจะไปขอที่ธนาคารก็ได้มั้ง แต่เราเลือกที่จะขอโดยตรงกับทางบริษัท เขาจะมีวิธีขอเอกสารหักผ่านบัญชี เราก็เข้าไปในเว็บไซด์ของเขา แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่เขาบอกมา ประมาณวันสองวัน ก็จะมีเอกสารที่เราขอของแต่ละบริษัทส่งมาให้ที่บ้าน แล้วเราก็กรอกข้อมูล แล้วก็ส่งกลับไป ค่อนข้างยุ่งพอสมควรเนอะ เพราะถ้าเป็นที่เมืองไทย เราไปขอมาเก็บไว้หลาย ๆ ใบ เผื่อให้คนอื่น หรือเผื่อตอนที่ต้องการจะยกเลิกก็ได้ แต่ที่ญี่ปุ่นได้แค่ 1 ใบ เขียนผิดก็ต้องแก้ไขแล้วปั้มอิงคังเอา


วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตรวจครบ 4 เดือน (ที่ Hoken Center)

ตรวจครบ 4 เดือนนี้จะไม่ได้ไปตรวจที่รพ. เพราะว่าช่วงต้นเดือน ต.ค. มีจม. จาก Hoken Center มา เนื้อความในจม. ก็จะประมาณว่าช่วง 4 เดือน ทารกสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วก็กำหนดวันเวลาให้พาทารกไปตรวจ แล้วด้านหลังจม. ก็จะมีแบบสอบถามให้เรากรอกว่า ลูกของเราทำแบบนี้ได้ไหม เช่น ชันคอได้หรือยัง หันตามเสียงเรียกได้หรือยัง ตาเคลื่อนไหวตามวัตถุได้มั้ย ประมาณนี้ แล้วก็จะมีให้เขียนตารางใน 1 วันว่า ให้นมลูกช่วงกี่โมง นอนกี่โมง ลูกอึฉี่กี่โมง ฯ

วันนี้ก็เลยพาไปตรวจ ให้คุณซูไปด้วย ไปช่วงฟัง ช่วยอธิบาย เพราะมีเหมือนกันที่อยากจะถามคุณหมอ อย่างเช่นปานที่แขน ที่หลังที่มีมาแต่เกิด ว่าอันตรายมั้ย

ไปถึงก็ยื่นกระดาษแบบสอบถาม + สมุดสุขภาพแม่และเด็ก จากนั้นก็รอเรียกชื่อ พอถึงคิวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะถามเกี่ยวกับที่เราเขียนไป เราเขียนไปว่า เจ้าหนูตอนนี้ท้องเสีย พาไปหาหมอก็ยังไม่ดีขึ้น เจ้าหน้าที่ก็เลยถามว่าแล้วตอนนี้เป็นยังไง เราก็บอกว่าปริมาณอึลดลง แต่จำนวนครั้งที่อียังเหมือนเดิม แต่เจ้าหนูยังร่าเริงดี
แล้วก็มีถามเกี่ยวกับตัวแม่ ว่ามีปัญหาสุขภาพอะไรมั้ย เราก็บอกไปว่า ปวดหัวเข่า + ผมร่วงเยอะขึ้น
เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าตกใจ ถามเรากลับมาว่าเครียดหรือเปล่า เราก็งง ๆ สงสัยคนญี่ปุ่นไม่ค่อยมีปัญหาพวกนี้มั้ง เพราะเราเคยหาข้อมูลของไทย ก็มีคุณแม่หลายคนที่เป็นเหมือนเรานะ

พูดคุยเสร็จ ก็รอเรียก คราวนี้พาเจ้าหนูไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดรอบหัว ให้ถอดเสื้อ + แพมเพิสออกหมดเลย น้ำหนักที่ชั่งได้ 7950 กรัม ส่วนสูง 63.4 เซน รอบหัว 42.6

จากนั้นก็พาไปให้คุณหมอตรวจ คุณหมอก็จะตรวจใช้หูฟัง นวดท้อง กดขา ดูช่องปาก ดูหลัง แล้วก็บอกว่าปานนั้นน่าจะเป็นไฝ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ปกติดี

พอตรวจกับคุณหมอเสร็จก็พาเจ้าหนูมาใส่เสื้อผ้า แล้วก็รอเรียก คราวนี้จะเป็นการอธิบาย (มีเอกสารให้) ถึงอาหารเสริมแล้ว ที่ญี่ปุ่น่จะให้เริ่มทานอาหารเสริมตั้งแต่เดือนที่ 5 ส่วนเดือนที่ 4 นี้จะเป็นช่วงเตรียมความพร้อมโดยการให้เว้นช่วงการให้นมลูกให้นานขึ้น เป็นให้ทุก ๆ 3 ชม. เพื่อที่จะได้ทานอาหารได้อร่อยมากขึ้น เพราะท้องว่างนั่นเอง
ส่วนพอเข้าเดือนที่ 5 ก็จะมาดูทารกแล้วว่ามีพัฒนาการไปถึงไหน คอแข็งแล้วหรือยัง, จับให้นั่งนั่งได้แล้วหรือยัง (ประคองไว้), ดูดนิ้ว งับของเล่นหรือยัง, มีความอยากอาหารหรือยัง ถ้ามีตามนี้แล้วก็ถือว่าโอเค
ก็จะมาเริ่มให้อาหารเสริม คือให้ข้าวต้มเละ ๆ แล้วก็ให้ด้วยช้อน  1 ช้อน  ซึ่งจะให้ตอนที่ทารกอารมณ์ดี แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยกำหนดช่วงเวลาการให้ ซึ่งแนะนำว่าควรให้ช่วงเช้า เพราะกระเพาะกำลังทำงานดี แล้วอีกอย่างถ้ามีอะไร จะได้พาไปหาหมอในช่วงบ่ายได้  แล้วก็ไม่ต้องปรุงรสอะไรลงไปในข้าวต้มนั้น

ในเนื้อหาเอกสารก็จะมีวิธีการทำข้าวต้ม วิธีการให้ทารกทานในเดือนที่ 5 เดือนที่ 6 จนถึง 1 ขวบ ว่าใน 1 วันให้ทานกี่ครั้ง ปริมาณเท่าไหร่  ให้ทานอะไรบ้าง

พออธิบายเสร็จก็รอเรียกอีกครั้ง เพื่อรอรับสมุดสุขภาพแม่และเด็กคืน เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายถึงสิ่งที่เรากังวล อย่างเจ้าหนูชอบดูดนิ้ว เขาก็บอกว่าช่วงนี้ทารกกำลังเรียนรู้ให้ดูดได้

พอได้สมุดคืนแล้วก็พาเจ้าหนูไปกินนม เพราะช่วงที่อธิบายถึงอาหารเสริมเจ้าหนูร้องหิวนม เสียงดังพอสมควร

ก็เป็นอันเสร็จตรวจครบ 4 เดือน ไม่มีค่าใช้จ่าย

ตรวจครบ 5 เดือน ก็ไปตรวจที่รพ. เหมือนเดิม






วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พาเจ้าหนูไปหาหมอ (ท้องเสีย)

เจ้าหนูท้องเสียตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ผ่านมาเกือบจะอาทิตย์ ยังไม่ดีขึ้นแต่ก็ยังแข็งแรง ร่าเริงดี แต่ว่าพาไปหาหมอดีกว่า เพราะเป็นนานเกิน แล้วอีกอย่างดูจากสีของอึ ช่วงแรก ๆ ก็ยังเป็นสีเหลืองเหมือนปกติ แต่พอมาช่วงหลัง ๆ สีเริ่มเปลี่ยนเป็นออกเขียว ๆ เหม็นด้วย (ถ้าปกติอึจะไม่เหม็น)  ซึ่งวันนี้ก็ไปอ่านเจอว่าช่วงนี้เด็กจะติดเชื้อไวรัสได้ง่าย เพราะอากาศหนาว + มีรูปสีของอึให้ดู ใช่เลยเจ้าหนูท้องเสีย

พาไปหาหมอ คุณหมอก็ตรวจ ๆ แล้วก็บอกว่ามีเชื้อไวรัส แต่ว่าวัดอุณหภูมิร่างกายแล้ว (37.4) ไม่มีไข้ ก็จะเป็นแบบนี้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะดีขึ้น ก็เลยให้ยามา จะมี 2 ตัว คือน้ำเกลือ กับอีกตัวน่าจะเป็นแก้ท้องเสีย

1.ผงน้ำเกลือ ผสมน้ำ 100 มล. (ソリタ-t配合顆粒3号)

2. แก้ท้องเสีย (ปรับสภาพลำไส้) (ラックビー微粒N)

แล้วก็ให้คุณหมอดูตุ่มเม็ดแดง ๆ ใต้คางเจ้าหนู จะมี 3 เม็ดเรียงกัน คุณหมอก็เลยจัดยาทามาให้อีก 1 ตัว



ก็เป็นอันตรวจเสร็จเรียบร้อย รอเรียก พอเจ้าหน้าที่เรียกแล้วก็รับยา แต่ไม่ต้องเสียค่ารักษากับค่ายา ดีจัง แต่ไม่อยากใช้ระบบนี้เท่าไหร่ เพราะถ้าใช้ก็หมายถึงเจ้าหนูไม่สบายนี่เอง



วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พัฒนาการ 3 เดือน - 4 เดือน (6 Oct - 5 Nov)

-10/8 พลิกหงายได้ แต่ยังพลิกคว่ำเองไม่ได้
-10/8 เริ่มนวดหัวตาให้ เพราะว่าน้ำตาไหล
-10/10 เริ่มเป็นผดที่หน้าผาก, แก้ม
-10/9 เอามือสัมผัสของได้แล้ว เลื่อนไปมาได้
-ช่วงนี้ชอบมองกำปั้นตัวเอง
-ยังคงเอากำปั้นเข้าปาก น้ำลายไหล
-ชอบร้องเสียงดังบ่อยขึ้น ส่งเสียงเรียก
-10/13 ทำท่าปั่นจักรยานได้
-คิ้วเป็นรูปเป็นร่าง เริ่มดำขึ้น
-ขนหน้าแข้งเริ่มขึ้น มีหนวดด้วย
-เอามือประสานกันได้แล้ว
-สนใจมองมือตัวเองมากขึ้น
-ชอบยกมือขวา ชูกำปั้นขึ้นแล้วก็มอง
-ส่งเสียงร้องตอนที่อยากให้อุ้ม (ก็เกือบตลอดทั้งวันอ่ะนะ)
-จับทำท่าตะแคง ก็ทำให้พลิกคว่ำเองได้แต่ไม่บ่อย
-11/4 ท้องเสีย สีเหลือง เหม็น มีผื่นแดงที่ก้น เป็นตลอดถึง 12/1 ถามแม่ แม่บอกว่าเด็กยืดตัว
-11/5 มีขี้ตาแล้ว ตาข้างซ้าย

-ใส่เสื้อไซส์ 60, 70, 80