วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ขึ้นเครื่องบินตอนท้องช่วงไตรมาสแรก

ช่วงสิ้นปี 2013 เรากับคุณซูก็มีแพลนกลับไทยกัน เราก็กังวลเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องบินอยู่เหมือนกัน
แต่คุณหมอบอกว่าโอเค ก็ค่อยสบายใจหน่อย
ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี  ปกติจะบินตรงนาริตะกรุงเทพฯเลย แต่สู้ราคาตั๋วช่วงนั้นไม่ไหว เท่ากับเวลาที่บินกลับเที่ยวเดียวก็เกือบ 10 ชั่วโมง เหนื่อยเหมือนกัน
ตอนที่เราเช็คอินที่นาริตะ เราบอกไปว่าเราตั้งท้อง พนักงานก็ระบุข้อมูลลงไปในระบบ แล้วก็แปะที่กระเป๋าของเรากับคุณซูที่โหลดใต้ท้องเครื่องประมาณว่าตอนไปรับกระเป๋าที่กรุงเทพฯ ก็จะเป็นใบแรก ๆ ที่จะออกมาก่อน สุดยอดของการบริการเลยอ่ะ
แต่ว่าตอนที่เช็คอินที่กรุงเทพฯ บอกแบบเดียวกัน พนักงานก็ไม่ได้ทำอะไรให้เป็นพิเศษ...

ช่วงที่ต้องผ่านเครื่องสแกน เราก็บอกพนักงานว่าเราท้อง เขาก็ไม่ให้เราผ่านเครื่องนั้น แล้วก็ให้พนักงานผู้หญิงมาตรวจที่ตัวเรา เปลี่ยนเครื่องที่เกาหลีก็มีเครื่องนั้น เราก็บอกทุกครั้งที่เห็นเครื่องนั้นเลย

แล้วตอนที่เรานั่งบนเครื่องคุณซูบอกให้พกหน้ากากไปด้วย เพราะอากาศในเครื่องจะแห้ง ซึ่งก็ได้ผลดีมาก ๆ ใส่หน้ากาก แล้วยิ่งเป็นหน้ากากที่มีแผ่นให้ความชุ่มชื้นด้วยแล้ว จมูกไม่แสบเลย หายใจคล่องขึ้น


ระหว่างที่อยู่ที่เมืองไทยอย่างเวลาที่จะขึ้น BTS หรือ MRT หรือเข้าห้างที่มีเครื่องสแกน เราก็จะบอกเจ้าหน้าที่ว่าเราท้องอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเดินเลี่ยงไม่ผ่านครื่องสแกน แต่ก็ขอตรวจกระเป๋าเหมือนเดิม เพื่อความปลอดภัยของเขาอ่ะนะ  ช่วงแรก ๆ ลืมนึกไปผ่านเข้าออกเครื่องสแกนหน้าห้างเป็นว่าเล่น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรอ่ะนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น